ข่าว: ข่าวประกาศ

  • 26 เมษายน 2024, 20:03:55

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - admin

หน้า: [1] 2 3 ... 24
1
ตอน 3 จะมาศึกษาถึงเรื่องของ fail-over  เน็ต 3 เส้น  ถ้าเกิดเส้น 1 ดาวน์ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ข้อมูลจะวิ่งไปเส้นไหน

และจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นบ้าง  ก็จะอธิบายในหัวข้อนี้

จบแล้วก็จะเป็นเรื่องของการ forward port  จะ forward กล้องวงจรปิด   forward port เกมส์ หรืออื่นๆ จะต้องทำอย่างไร

---------

จากตัวอย่างการ config ก่อนหน้านี้  ถ้าเกิดเน็ตเส้น 1 ดาวน์ จะเกิดอะไรขึ้น  เราก็ต้องมาพิจารณา mark route ที่เราทำไว้

ก่อนหน้านี้

game => wan1
dst1  => wan2
dst2  => wan3
both1 => wan2
both2 => wan3

จะเห็นว่า ถ้า wan1 ดาวน์  ข้อมูลกลุ่ม game จะไม่สามารถออกทาง wan1 ได้ แล้วเกิดอะไรขึ้น?

ข้อมูล game จะออกไม่ได้?

ไม่ใช่ครับ ข้อมูลเกมส์ก็จะออก default route แทน  ยังจำได้ไหมครับ default route ที่เราทำไว้ เป็นอย่างไร



default route ก็คือ gateway ทั้ง 3 wan  ถ้า wan1 ดาวน์ไป ก็จะเหลือ wan2 และ wan3

ดังนั้นข้อมูล game จะวิ่งสุ่มระหว่าง wan2 กับ wan3 นั่นเอง  ส่วนข้อมุลกลุ่ม dst1,dst2,both1,both2 ก็ยังออก

wan2 และ wan3 ตามปกติเหมือนเดิม

งงไหมครับ   ถ้าเข้าใจแล้ว งั้นลองทดสอบว่า  ถ้า wan2 ดาวน์บ้างล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น

game => wan1
dst1  => wan2  default route
dst2  => wan3
both1 => wan2  default route
both2 => wan3

ข้อมูลกลุ่ม dst1 และ both1 จะวิ่ง default route แทน ซึ่งก็คือ ออก wan1 และ wan3 แบบสุ่ม

ถ้าเข้าใจแล้ว ต่อไปจะเป็นการกำหนดเส้นให้กับข้อมูล ในกรณีที่เส้นที่กำหนดไว้เกิด ดาวน์

เช่น กรณี wan2 ดาวน์   ต้องการให้  dst1  และ  both1   วิ่งออก wan3 เท่านั้น

ในกรณีนี้ เราจะสร้าง route ขึ้นมา โดยกำหนด distance เป็น 2  ไว้สำรอง wan2

ทำดังนี้   เข้าไปที่เมนู  IP Route  กด +

Gateway เป็น interface wan3 , Check Gateway เป็น ping , Distance เป็น 2 , Routing Mask เป็น wan2



กดปุ่ม Ok  ก็จะได้  Route เพิ่มขึ้นมา ที่เป็น Distance 2  ซึ่งจะทำงานต่อเมื่อ Distance 1 ไม่สามารถทำงานได้

** Route แสดงเป็นสีดำแสดงว่าทำงานอยู่   ถ้าแสดงเป็น สีน้ำเงิน แสดงว่าไม่ได้ทำงาน **



ทดลองปิดเน็ตเส้น 2 ดู  ผลก็จะได้ออกมาเป็น



จะเห็นว่า 3bb_link2 ขึ้น unreachable (แปลว่า ไม่สามารถทำงานได้)

Routing Mask wan2  Distance 2 ก็จะขึ้นมาทำงานแทน โดยข้อมูลจะวิ่งออกทาง 3bb_link3

ตามที่เราได้กำหนดไว้  จะไม่วิ่งแบบสุ่ม

พอจะเข้าใจการทำงานไหมครับ    ถ้าเข้าใจแล้ว  ให้กำหนด  Route  ดังนี้

Routing Mask wan1   Distance 2  ให้ออกเส้น   3bb_link2
Routing Mask wan2   Distance 2  ให้ออกเส้น   3bb_link3   (ทำไปแล้ว)
Routing Mask wan3   Distance 2  ให้ออกเส้น   3bb_link2

Routing Mask wan1   Distance 3  ให้ออกเส้น   3bb_link3
Routing Mask wan2   Distance 3  ให้ออกเส้น   3bb_link1
Routing Mask wan3   Distance 3  ให้ออกเส้น   3bb_link1

ก็จะได้ออกมาเป็น



เมื่อเสร็จแล้ว ก็ลองทำความเข้าใจ แล้วทดสอบดูว่า  ในกรณีต่าง ๆ การทำงานจะเป็นอย่างไร

ถ้า wan1 down   ถ้า  wan2  down   ถ้า  wan3  down
ถ้า wan1,wan2  down
ถ้า wan1,wan3  down
ถ้า wan2,wan3  down

จะเป็นอย่างไร   ลองศึกษาดูต่อนะครับ

=================================

ต่อไปเรื่องการ forward port  

การ forward port นั้นจะทำใน IP->Firewall  ในส่วนของ NAT

การ forward port มี 2 บรรทัด คือ การเปลี่ยน dst-nat และเปลี่ยน src-nat

1. ถ้าเรียกใช้งานเข้ามาทาง Internet ผ่าน WAN ก็จะใช้วิธีการ dst-nat ทำการเปลี่ยนปลายทางไปยังเครื่องที่กำหนด

2. ถ้าเรียกใช้งานภายใน Network ผ่าน LAN ก็จะใช้วิธีการ src-nat ทำการเปลี่ยนต้นทางเป็น IP ของ server

ยกตัวอย่างเช่น

ต้องการ forward port 5900  =>  192.168.88.100:5900

ก็ทำการ config ดังนี้  เข้าไปเมนู IP->Firewall  เลือก แถบ NAT

กด + แถบ General  เลือก Chain เป็น dstnat , Protocol เป็น 6 (tcp) , Dst. Port 5900



แถบ Extra เลือก Dst. Address Type เป็น local



แถบ Action เลือกเป็น dst-nat , To Address เป็น 192.168.88.100 , To Ports เป็น 5900



กดปุ่ม Ok  ก็จะได้ dst-nat มา 1 บรรทัด



ต่อไปสร้าง src-nat ขึ้นมาอีกบรรทัด



กด + แถบ General  เลือก Chain เป็น srcnat , Src. Address เป็น 192.168.88.0/24
Dst. Address เป็น 192.168.88.100 , Protocol เป็น 6 (tcp) , Dst. Port 5900



แถบ Action เลือก Action เป็น src-nat , To Addresses เป็น 192.168.88.1  กดปุ่ม Ok



ก็จะได้ srcnat มา 1 บรรทัด เป็นอันเรียบร้อยสำหรับการทำ Port Forwarding

สามารถใช้งานได้ทั้งในร้าน และ นอกร้าน ได้อย่างไม่มีปัญหา

2
สำหรับหัวข้อนี้ จะเป็นขั้นสูงมากขึ้น เป็นการทำ การ mark connection และก็ทำ mark route

เพื่อแบ่งกลุ่มของข้อมูล และกำหนดเส้นทางให้กับการวิ่งของข้อมูลให้ถูกต้อง ตามที่เราต้องการ

ทำความเข้าใจการวิ่งของข้อมูลก่อน ดังนี้

ในการเชื่อมต่อรับส่งข้อมูล 1 session หรือ 1 connection จะประกอบด้วย

src ip : src port <==> dst ip : dst port

ข้อมูล INPUT
คือ ข้อมูลที่ dst เป็น Router และ src อาจจะมาจาก Internet ผ่านทาง WAN หรือ มาจาก Client ผ่านทาง LAN

ข้อมูล OUTPUT
คือ ข้อมูลที่ src เป็น Router dst อาจจะเป็น Internet โดยส่งไปทาง WAN หรือ dst เป็น Client โดยส่งไปทาง LAN

ข้อมูล FORWARD
คือ ข้อมูลที่ src เป็น Client วิ่งผ่าน Router ไปยัง dst Internet แล้ว Internet ก็ทำการตอบกลับมาผ่าน Router กลับไปสู่ Client


ข้อมูล INPUT/OUTPUT

เราจะเน้นจัดการข้อมูลที่วิ่งมาทาง WAN เข้ามายัง Router   (Router ในทีนี้ก็คือ ตัว Network Server นั่นเอง)
โดยสิ่งที่เราต้องทำก็คือว่า  
- ข้อมูลที่วิ่งเข้ามาทาง WAN1 จะต้องถูกส่งออกไปทาง WAN1
- ข้อมูลที่วิ่งเข้ามาทาง WAN2 จะต้องถูกส่งออกไปทาง WAN2
- ข้อมูลที่วิ่งเข้ามาทาง WAN3 จะต้องถูกส่งออกไปทาง WAN3

ก็คือเข้ามาทาง WAN ไหน ก็ต้องออกทาง WAN นั้น  
เพราะถ้าออกไม่ตรง จะเกิดการเชื่อมต่อที่ผิดพลาด หรือไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้

สิ่งที่ต้องทำ  (กรณี 3wan)
1. สร้าง ip route ชื่อ wan1 ขึ้นมา โดยให้ gateway เป็น interface ของ wan1
2. สร้าง ip route ชื่อ wan2 ขึ้นมา โดยให้ gateway เป็น interface ของ wan2
3. สร้าง ip route ชื่อ wan3 ขึ้นมา โดยให้ gateway เป็น interface ของ wan3

4. สร้าง firewall mangle ขึ้นมา chain input
mark conn ข้อมูลที่วิ่งเข้ามาทาง wan1 โดยปลายทางเป็น local ให้ mark เป็น wan1
5. สร้าง firewall mangle ขึ้นมา chain input
mark conn ข้อมูลที่วิ่งเข้ามาทาง wan2 โดยปลายทางเป็น local ให้ mark เป็น wan2
6. สร้าง firewall mangle ขึ้นมา chain input
mark conn ข้อมูลที่วิ่งเข้ามาทาง wan3 โดยปลายทางเป็น local ให้ mark เป็น wan3

7. สร้าง firewall mangle ขึ้นมา chain output
กำหนดให้ข้อมูลที่ mark conn ชื่อ wan1 ให้ route ไปที่ ip route wan1
8. สร้าง firewall mangle ขึ้นมา chain output
กำหนดให้ข้อมูลที่ mark conn ชื่อ wan2 ให้ route ไปที่ ip route wan2
9. สร้าง firewall mangle ขึ้นมา chain output
กำหนดให้ข้อมูลที่ mark conn ชื่อ wan3 ให้ route ไปที่ ip route wan3

มาดูขั้นตอนการ config กัน

สร้าง ip route ให้เข้าไปเมนู IP -> Routes



กด + เพิ่ม Route  กำหนด Gateway เป็น wan1 interface , Check Gateway ping , Distance 1
และ Routing Mark ชื่อว่า wan1



เสร็จแล้วกดปุ่ม Ok  ก็จะได้ Route เพิ่มมาในชื่อ wan1



ทำเช่นเดียวกัน สำหรับ wan2 และ wan3  ก็จะได้มาเป็น



เป็นอันเรียบร้อย สำหรับการสร้าง route

ต่อไป ทำการสร้าง firewall mangle ขึ้นมา โดยเข้าไปที่เมนู  IP -> Firewall  เลือก แถบ Mangle



กดปุ่ม +  แถบ General กำหนดค่า Chain input , In. Interface เป็น interface ของ wan1



แถบ extra เลือก Dst. Address Type เป็นแบบ local



แถบ Action เลือก  Action  mark connection , mark  wan1   และ ติ๊ก Passthrough



เสร็จแล้วกดปุ่ม Ok  ก็จะได้  mark connection input มา 1 บรรทัด



ทำแบบเดียวกันกับ wan2 และ wan3  โดยเปลี่ยน mark ให้ตรงตาม wan  ก็จะได้ครบทั้ง 3 บรรทัด



ต่อไปทำการกำหนด route ให้กับข้อมูลที่ถูก mark connection แล้วให้ออกตาม wan ที่กำหนด

กด + เลือก Chain เป็น output  เลือก Connection Mark เป็น wan1



แถบ Action เลือกเป็น mark routing เลือก route เป็น wan1  และก็ติ๊ก Passthrough ออก



กดปุ่ม Ok  ก็จะได้ mark routing output  ของ wan1 มา



ก็เช่นเดียวกันครับ ทำ mark routing ของ wan2 และ wan3 ในแบบเดียวกัน



ก็จะได้ mark routing output ของทั้ง 3 wan ครบ

เมื่อทำครบเรียบร้อยแล้ว ก็จะสามารถ remote winbox มาจากข้างนอกได้ โดยผ่านทาง ip จริง ของ wan ไหนก็ได้

หรือผ่านทาง noip ที่ได้ทำไว้ก็ได้ เช่นกัน

*** ทำการเพิ่ม comment โดยใช้ action แบบ passthrough เข้าไป เพื่อจัดกลุ่มบรรทัดให้สวยงาม ***



*** อันนี้ลองหาวิธีทำดูเองนะครับ อิอิ ไม่ยาก ***

3
- ขั้นตอนการติดตั้ง Mikrotik ลงบน Network Server
- วิธีการ config เบื้องต้นสำหรับเชื่อมต่อ Internet แบบ pppoe/static/dhcp
- ขั้นตอนการลงทะเบียน Mikrotik เพื่อใช้งาน Demo license
- ขั้นตอนการทำ โหลดบาลานซ์และ fail-over
- ขั้นตอนการทำ forward port และ loopback nat
- ขั้นตอนการแบ่งกลุ่มข้อมูล และกำหนดเส้นทางให้แต่ละกลุ่ม
- วิธีการตรวจสอบการทำงานและตรวจเช็คความถูกต้อง
- วิธีการดูแลรักษาและการตรวจเช็คความเร็วอินเตอร์เน็ตแต่ละเส้น

อื่น ๆ

ขั้นตอนการติดตั้ง Mikrotik ลงบน Network Server ให้ทำดังนี้



สิ่งที่ต้องเตรียม
- PC หรือ notebook 1 เครื่องติดตั้ง Windows XP
- โปรแกรม Netinstall (โหลดจาก web mikrotik)
- โปรแกรม RouterOS แบบ extra-package (โหลดจาก web mikrotik)
- อุปกรณ์ Network Server ที่จะทำการติดตั้ง

สำหรับที่ตัว PC ให้ทำการเปิดโปรแกรม Netinstall ขึ้นมา



ทำการ config  netbooting โดยติ๊ก boot server enabled แล้วใส่ IP ที่จะทำการแจกให้กับ Network Server เพื่อติดตั้ง
(เป็น ip ที่ว่างและวงเดียวกับตัว PC)  ตัวอย่าง PC เป็น IP 192.168.0.1/24  กำหนด Client ip เป็น 192.168.0.2



ต่อไปที่ตัวอุปกรณ์ Network Server ทำการตั้งค่า BIOS เพื่อให้บูตผ่านแลน โดยทำดังนี้

กดปุ่ม del เพื่อทำการเข้า BIOS



ไปที่เมนู Chipset เลือก North Bridge Configuration



ทำการ Enable   LAN PXE Option ROM



เสร็จแล้วก็เซฟ แล้วก็บูตใหม่  ให้กด F11 เพื่อทำการเลือกบูต



ทำการต่อสายแลนเข้ากับตัว PC โดย Port 1 จะเป็น Slot 0200   Port 2 จะเป็น Slot 0300  ตามลำดับ เลือก Port ที่จะทำการบูต



เมื่อบูตมาแล้ว ถ้าถูกต้อง ก็จะเข้าขั้นตอนการติดตั้ง ตามในรูป



และก็มาหยุดรอรับคำสั่งจาก Netinstall



หลังจากนั้น เราก็จะเห็นว่าที่ตัวโปรแกรม Netinstall ก็มี device เพิ่มขึ้นมา พร้อมจะติดตั้ง ros ได้



ก็ติดตั้งปกติครับ
1 เลือก device
2 ทำการ browse package ที่จะติดตั้ง
3 เลือกติดตั้ง all package
4 ก็กดปุ่ม install ได้เลย



ตัว Netinstall ก็จะทำการติดตั้ง RouterOS ลงบนอุปกรณ์ Network Server ให้



เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ทำการ Enter ที่ตัว Network Server เพื่อทำการรีบูต  เมื่อบูตเสร็จ ก็จะได้ RouterOS



เป็นอันเสร็จเรียบร้อย  สามารถใช้ WinBox remote เข้าไปจัดการได้เลย



โดยเข้าไปครั้งแรก จะสามารถใช้งานได้ 24 ชม เท่านั้น จะต้องทำการลงทะเบียน หรือ อัพเกรดไลเซ่นก่อน ซึ่งจะอธิบายในตอนต่อไป



ตัว Resource ของ Network Server ตัว Desktop จะเป็น RAM 1G  SSD4GB  ถ้าตัว Rack จะเป้น RAM 2G SSD 8GB



ซึ่งก็เพียงพอสำหรับใช้งาน รองรับ BW สูงๆ ได้สบายๆ

4
สินค้าและบริการ / HL9 27" Cafe Gaming AIO
« เมื่อ: 20 มกราคม 2017, 22:31:36 »
วันนี้พามาชมสินค้า All-In-One สำหรับร้าน Internet Cafe กัน จะเป็นรุ่นที่มีชื่อว่า  HL9  27" Cafe Gaming AIO

สำหรับในรุ่น HL9 นั้น จะมีให้เลือก 2 ขนาดนะครับ เป็น 27" และ 32" ในรูปทรงที่เหมือนกัน ต่างกันทีขนาดของจอภาพ



ด้านหลัง



ต่อไปก็จะเริ่มมาดูส่วนประกอบต่าง ๆ นะครับ



ด้านหน้าตัวจอจะกว้าง 65 cm ความสูงตัวจอ 41 cm (รุ่น 32 นิ้ว ขนาด 75 cm x 46cm) และสูงจากพื้นประมาณ 8 cm



ปุ่มต่าง ๆ จะอยู่ซ้ายมือ โดยจะมี ปุ่ม power / reset  และก็จะเป็นปุ่มเมนูปรับภาพของจอ



ตรงกลางจะมีกล้อง 1.3MP ติดมาให้ 1 ตัว



และด้านข้างจะมี USB 1 Port  เป็น USB3.0



ด้านหลังของตัวจอ ออกแบบมาให้สมดุลทั้งสองข้าง มีรูระบายความร้อน



ด้านล่างของจอ ออกแบบมาสำหรับ I/O Port ของตัว M/B และ Power Supply จะอยู่ด้านล่างทั้งหมด



ส่วนของ M/B ก็รองรับขนาดทั่ว ๆ ไปครับ สามารถใช้ได้ทุกบอร์ด usb ด้านข้างก็ต่อออกจากตัวบอร์ดนั่นเอง



Power Supply ก็ใช้รุ่นขนาดมาตรฐานทั่วไป (ใหญ่เกินไปก็ใส่ไม่ได้นะครับ)

สังเกตว่า จะมีช่องลำโพงมาด้วยนะครับ  แต่รุ่นนี้ ไม่มีติดมาให้นะครับ เป็น option เสริม



ส่วนของขาตั้ง เป็นเสาเดียวตรงกลาง ยึดด้วยน๊อตถึง 8 ตัว มั่นคงแข็งแรง



ครอบด้วยพลาสติกชุบโครเมี่ยม แวววาว หรูหรา สวยงาม   สามารถปรับก้มเงยได้ครับ



เปิดฝาดูด้านในกันครับ  ในรูปเป็นตอนประกอบแล้วนะครับ  ตัวสินค้าจะไม่มี M/B Power มาให้นะครับ



จะเห็นได้ว่า ในส่วนของตัว M/B สามารถรองรับบอร์ดได้ถึงขนาด ATX ครับ  ในรูปเป็นบอร์ดขนาด mATX



ในส่วนของ Power Supply ก็รองรับขนาดทั่วไป  ด้านบนก็จะเป็นที่สำหรับยึด HDD/SSD

ตัวอย่างร้านอินเตอร์เน็ตในจีน ที่ใช้งานรุ่นนี้กัน












5
วันนี้ก็จะมาแนะนำถึงอะไหล่และส่วนประกอบต่าง ๆ ของ All-In-One ยี่ห้อ Idea Display รุ่น 27"

เริ่มต้นด้วยการเปิดฝาหลังมาก่อนเลย



ส่วนประกอบก็จะมีอยู่ด้วยกันประมาณ 8 ส่วนหลักๆ



เริ่มต้นด้วยส่วนที่ 1 ซึ่งก็คือส่วนของ controller board ของตัวจอ



สามารถขันน๊อตยึด 2 ตัว แล้วก็เปิดฝาออกมา



ด้านในก็จะเป็นแผงวงจรควบคุมของจอภาพ และมีสายเชื่อมต่อไปยังส่วนต่าง ๆ ตามรูป



โดยจะมีการเชื่อมต่อไปยังจุดต่าง ๆ 5 จุดด้วยกัน



ตามรูป
1 เชื่อมต่อไปยัง DVI cable (พร้อมกราวน์)
2 เชื่อมต่อไปยัง LED panel (พร้อมกราวน์)
3 เชื่อมต่อไปยังปุ่มกดของจอ
4 เป็นไฟเลี้ยง LED panel
5 เชื่อมต่อไปยัง Molex สำหรับ Power supply

ตัวอุปกรณ์บอร์ด หากเสีย ก็สามารถถอดเปลี่ยนได้ ต่อสายให้ครบ และก็ปิดฝาครอบ



ตอนปิดฝาครอบ ข้อควรระวัง ตอนปิดฝาครอบระวังอย่าให้หนีบสาย หรือตัวฝาครอบกดทับสาย

ต่อไปส่วนที่สอง คือ port usb และ audio
ส่วนที่สาม ที่ติดกันก็จะเป็น usb3.0



ด้านหลังก็สามารถเปิดฝาออกได้ ตามรูป (แน่นหน่อยนะครับ ระวังแตก หรือหัก)



ก็สามารถเปลี่ยนได้ โดยมีอะไหล่ 2 ชิ้นแยกกันคือ usb3 cable และ usb audio cable





ส่วนที่ 4 จะเป็นส่วนของปุ่ม power และ reset



ด้านหลังก็สามารถเปิดฝาออกได้ ตามรูป (แน่นหน่อยนะครับ ระวังแตก หรือหัก)



ก็สามารถเปลี่ยนได้เช่นกัน โดยมีอะไหล่ตามรูป



ส่วนที่ 5 เป็นปุ่มกดปรับภาพหน้าจอ



ก็จะมีอะไหล่ตามรูป



ส่วนที่ 6 คือ สาย DVI ที่เชื่อมมาจาก controller board ไปยังการ์ดจอ



ส่วนที่ 7 คือ สายจาก controller board ไปยัง LED panel



ส่วนสุดท้าย ส่วนที่ 8 ก็คือส่วนของ LED panel นั่นเอง

ก็เป็นอันครบทุกส่วน  จะเห็นได้ว่า ส่วนประกอบต่าง ๆ ไม่มีอะไรมากมาย ไม่ซับซ้อน สามารถตรวจสอบตรวจเช็คเองได้

หากมีปัญหาอะไหล่ตัวไหนเสีย ก็สามารถเปลี่ยนเองได้ หรือส่งเฉพาะอะไหล่ส่วนที่เสียมาเคลมได้

*** ยกเว้นในส่วนของ led panel จำเป็นต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญในการเปลี่ยน ***

6
สินค้าและบริการ / X400 24" Super Slim Frameless Gaming AIO
« เมื่อ: 11 มกราคม 2017, 02:45:23 »
X400  24" Super Slim Frameless Gaming AIO

เป็น All-In-One ในชุด Basic Gaming โดยเป็น All-In-One ที่สามารถใส่การ์ดจอสำหรับเล่นเกมส์ได้

และเป็นรุ่นใหม่ที่มีขนาดบางมาก โดยมีความหนาจากจอถึงเคส ประมาณ 7 ซม เท่านั้น ประหยัดพื้นที่

ในราคาที่คุ้มค่า

สเปคของตัวจอ จะมี 24" และ 27"  ความละเอียด FullHD 1920 x 1080 อัตราส่วน 16:9 เป็นจอด้าน

respond time 2ms  ความสว่าง 250 cd/m2  มุมมอง 178 องศา  refresh rate 60Hz


มาเริ่มกันเลย ด้วยการวัดขนาดกล่อง  และชั่งน้ำหนัก


กล่องจะมีขนาด 60cm x 46cm x 17cm  นัำหนักชั่งได้ 7.1 kg


แกะกล่องออกมา ก็จะมี คู่มือ , แผ่น driver , ขาตั้ง , หม้อแปลง , สาย hdmi->dvi , พัดลม cpu


ส่วนตัวจอ ก็จะอยู่ด้านล่างของโฟม มีโฟมประกอบหน้าหลัง พร้อมถุงโฟมกันรอยหุ้มมาอีกชั้น


ขั้นน๊อตสองตัว ก็สามารถเปิดฝาด้านหลังได้ เมื่อขันน๊อตแล้วก็ดันขึ้นนิดนึง ก็สามารถเปิดออกมา


ด้านในก็จะมี Mainboard Socket 1151  ชิฟเซต H110  ใช้ RAM แบบ SO-DIMM  DDR4 รองรับบัส 2133


ต่อ HDD/SSD แบบ msata ได้ 1 ช่อง และ SATA 2.5" ได้ 1 ช่อง  มีพัดลม cpu เฉพาะมาให้ด้วย


การประกอบก็ไม่มีอะไรมาก ใส่ ram / cpu / vga เหมือนประกอบปกติ ต่อ hdd/ssd ก็นำไปบูตใช้งานได้เลย


ประกอบเสร็จ เปิดเครื่อง เข้า BIOS เหมือนคอมพิวเตอร์ปกติ  สามารถตั้งบูตผ่านแลน เป็น NoHDD สำหรับร้านเน็ตได้


ปุ่มปิดจะอยู่ด้านข้าง  ส่วนอีกด้านจะเป็นช่องสำหรับต่อ USB


การติดตั้ง HDD สามารถ ติดตั้ง HDD หรือ SSD ขนาด 2.5 นิ้ว ได้ 1 ลูก


โดยทำการต่อสายและยึดน๊อตจำนวน 2 ตัว ตามรูป


ต่อไปก็ทำการติดตั้ง Windows และลงโปรแกรมต่าง ๆ เหมือนคอมพิวเตอร์ปกติ

7
สินค้าและบริการ / สินค้า Clearance ราคาพิเศษ
« เมื่อ: 02 กันยายน 2016, 18:32:43 »

MiniPC N3150  2LAN  2HDMI  Barebone   (สินค้ามีตำหนิ  กล่องฉีกขาด เครื่องทำงานปกติ)
จากราคาปกติ 5900.-  เหลือ 4900.-  มีจำนวน 1 ตัว


MiniPC Wibtek N2830 ram 2GB SSD 32GB สีขาว (สินค้ามีตำหนิ  กล่องฉีกขาด เครื่องทำงานปกติ)
จากราคาปกติ 5900.- เหลือ 4900.-  มีจำนวน 1 ตัว

8
สินค้าและบริการ / Cold Front 32" All In One
« เมื่อ: 31 สิงหาคม 2016, 04:28:54 »

วันนี้พามาชม สินค้า All in One อีกตัว เป็นรุ่น Gen 2 ปรับปรุงพัฒนาแก้ไขมาจากรุ่นแรก โดยมีชื่อเรียกว่า Cold Front


มาดูสเปคกันก่อน


ตัวจอจะเป็น IPS รองรับสี 1.07 พันล้านสี  รองรับ M/B ใหญ่ถึง ATX และมีพัดลมระบายความร้อนขนาด 120mm มาด้วย

มี webcam ขนาด 2MP มาให้ รองรับ HDD 3.5 1 ช่อง และ 2.5 1 ช่อง  VGA Card ยาวสุดได้ 28 cm แบบ DVI

ก่อนทำการแกะกล่อง ก็ทำการวัดขนาดของกล่อง และชั่งน้ำหนักก่อน เพื่อใช้สำหรับคำนวณค่าขนส่ง


ขนาดของกล่อง 79x52x23cm  น้ำหนักประมาณ 14 กิโลกรัม  หลังจากนั้นก็ทำการแกะกล่อง


เปิดมาก็จะเจอขาตั้งจอ  ถุงใส่น๊อตสำหรับประกอบ  และสาย cable tie สำหรับรัดเก็บสายให้เป็นระเบียบ

จอจะมีโฟมขนาดใหญ่ กันกระแทก แพคมาอย่างดี   ในรูปตัวอย่างจะเป็นสี gun-color หรือประมาณน้ำตาล-แดง


ในการประกอบ จำเป็นจะต้องวางจอบนพื้นที่นุ่มและสะอาด กันการเกิดรอยกระแทก หรือรอยขีดข่วนบนหน้าจอ


ขันน๊อตด้านบน 2 ตัว และด้านล่าง 4 ตัว แล้วค่อยๆถอดฝาครอบออก อย่าให้เดือยหรือตัวล๊อคมันหัก หรือแตก


ด้านในก็จะโล่งๆ มีพัดลมขนาด 120mm สามารถถอดออกได้ ระหว่างประกอบ


อุปกรณ์สำคัญอีกตัวของรุ่นนี้คือ ตัวแปลง Slot การ์ดจอ ที่ปรับให้การ์ดจอวางในแนวนอน ก็สามารถถอดออกมาก่อนได้

ต่อไปก็ทำการประกอบ Power Supply และ Mainboard ลงไป  สังเกตุว่า Power Supply ยังมีที่ว่างเหลืออยู่

สามารถใช้ Power Supply ขนาดยาวได้มากขึ้น ถึง 17cm


และ Mainboard ก็รองรับถึงขนาด ATX


เสร็จแล้วก็ทำการประกอบ Slot การ์ดจอ เข้ากับการ์ดจอให้เรียบร้อย


หลังจากนั้นก็ทำการประกอบ สายสัญญาณต่าง ๆ  Power Switch/Power LED/Reset/HDD LED

ต่อสายไฟ ให้กับจอภาพ และต่อ Power เข้า Mainbord ต่อ HDD สุดท้ายค่อยใส่การ์ดจอ แล้วต่อสาย DVI

ติดพัดลม ต่อสายไฟให้พัดลม ก็เป็นอันเรียบร้อย


เสร็จแล้วก็ทำการปิดฝาครอบ ขันน๊อตให้เรียบร้อย แล้วก็ติดขาจอ ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย


เปิดเครื่องได้  ปุ่มจะมีไฟสว่างเวลาเปิดเครื่อง   สังเกตุ รุ่นนี้จะมีไฟแสดงสถานะของ HDD ด้วย


จริงๆมันเหมาะสำหรับใช้เล่นเกมส์นะครับ แต่คนทดสอบเล่นเกมส์ไม่เป็น เลยเปิดการ์ตูนแทน



ด้านหน้าของจอ ก็จะมีช่องเสียบ หูฟัง   ไมค์  USB2.0  และ USB3.0 ตามรูป


รุ่นนี้มี webcam มาให้ด้วยด้านหน้า 2MP  ด้านหลังก็จะมีไฟสีของพัดลม  ตัวนี้ก็จะเป็นสีแดง


สวยงามตามท้องเรื่อง


9
สินค้าและบริการ / Idea Display 27" All In One
« เมื่อ: 24 สิงหาคม 2016, 03:29:38 »


วันนี้พามาชม สินค้าตัวใหม่



เป็น All In One ยี่ห้อ Idea Display แบบ DIY ชุด Barebone จอภาพขนาด 27"

ซึ่งมีรายละเอียดสเปคดังนี้



เริ่มต้น ก่อนแกะกล่อง ก็วัดขนาดกล่อง พร้อมชั่งน้ำหนัก เอาไว้สำหรับคำนวณค่าส่ง

กล่องมีขนาด  69 x 54 x 32cm  มีน้ำหนักประมาณ 12kg

เมื่อแกะออกมาแล้ว ตัวจอมีการแพ็คมาเป็นอย่างดี ใช้โฟมขนาดใหญ่สองชิ้นประกอบหน้าหลัง





มั่นใจได้ในความแข็งแรง  ในกล่องก็จะมีตัวจอ และก็มีน๊อตสำหรับประกอบมา 1 ถุง



หน้าตาของจอ  ตัวในรูปจะเป็นขอบจอสีขาว นะครับ (รุ่นนี้จะมี ขอบจอ 2 สี  ขอบจอสีขาว / ขอบจอสีดำ)



ด้านหน้าของจอ  ด้านล่างก็จะมี USB2.0 ช่องต่อไมค์  ช่องต่อหูฟัง  USB3.0



โล้โก้ idea display (สามารถเปลี่ยนได้ โดยสั่งซื้อขั้นต่ำ 50 ตัว)



ด้านขวาก็จะเป็นปุ่ม Power และปุ่ม reset



ด้านหลังก็จะมีที่แขวนหูฟัง สามารถซ่อนเก็บได้



ขาของตัวจอ จะไม่มีรูสำหรับยึดน๊อตแล้วนะครับ ทางโรงงานได้เอาออกแล้ว เนื่องจากไม่ได้ใช้งาน



จอสามารถก้มเงยได้ ประมาณ 15 องศา



ต่อไปก็ทำการเปิดฝา โดยขันน๊อต 4 มุมด้านหลัง ก็สามารถเปิดฝาหลังออกมาได้





ก็จะมีสายสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ในการประกอบตัวจอ  ได้แก่

- สาย power สำหรับจอภาพ เป็น molex แบบ 4 pin ต่อเข้ากับ power supply โดยตรง (จอภาพใช้ไฟประมาณ 36W)
- สายสัญญาณภาพของตัวจอ เป็นแบบ DVI
- สายที่ต่อเชื่อมบน M/B ได้แก่  สาย Power Switch, Power LED, Reset
- สาย USB 2.0 สำหรับเชื่อมต่อบน M/B
- สาย USB 3.0 สำหรับเชื่อมต่อบน M/B
- สาย Audio สำหรับเชื่อมต่อบน M/B
- ตรงฝาครอบด้านบนจะมีพัดลมระบายความร้อนขนาด 8cm ติดมาให้ 1 ตัว



การประกอบก็เหมือนประกอบคอมพิวเตอร์ทั่ว ๆ ไป  ไม่มีอะไรแตกต่าง

ข้อจำกัดคือ
- ขนาดความสูงของพัดลม CPU ไม่เกิน 6cm
- ขนาดความยาวของ Graphic Card ไม่เกิน 32cm
- ขนาดของ Power Supply ไม่เกิน 16cm x 15cm x 8.5cm
- ขนาดของ M/B แบบ microATX ไม่เกิน 24cm x 24cm

การประกอบก็ไม่มีอะไรพิเศษ มีเพียงเพิ่มเรื่องการต่อสาย power ให้กับจอ และต่อสาย DVI เข้าไป



ในรูปเป็น power ขนาดมาตรฐาน 14cm x 15cm x 8.5cm   จะเห็นว่ามีพื้นที่เหลืออยู่อีก ซึ่งสามารถใช้

power supply ได้ขนาดถึง 16cm x 15cm x 8.5cm ทำให้เลือกใช้ได้หลายรุ่นมากขึ้น



เมื่อทำการประกอบเรียบร้อย ก็ทำการเปิดเครื่อง โดยกดปุ่ม Power บนตัวจอ ก็จะทำการเปิดเครื่องพร้อมจอทันที



สวยงามตามท้องเรื่อง

10
สินค้าและบริการ / All In One PC แบบ DIY
« เมื่อ: 10 สิงหาคม 2016, 04:53:49 »


- รุ่น H27

ขนาดของตัวจอ ไม่รวมฐาน  สูง 42 cm  ยาว 65 cm  

ความหนาวัดจากหน้าจอไปยังส่วนที่หน้าที่สุด ประมาณ 16 cm

รองรับ M/B แบบ MicroATX ทั่วไป (รองรับถึงขนาด ATX)

ขนาด Power Supply ขนาดมาตรฐาน 14cm x 15cm

รองรับการเชื่อมต่อแบบ DVI/VGA

อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ มีกล้อง webcam/speaker มาในตัว รองรับ cdrom แบบ slim

ปุ่มควบคุม 4 ปุ่ม   Menu / +up / -down / Power

ข้อสังเกตุ : ไม่มี usb / ไม่มีที่แขวนหูฟัง

มี 3 ขนาดให้เลือก 24 นิ้ว 27 นิ้ว และ 32 นิ้ว





- รุ่น V27

ขนาดของตัวจอ ไม่รวมฐาน  สูง 42 cm  ยาว 65 cm  

ความหนาวัดจากหน้าจอไปยังส่วนที่หน้าที่สุด ประมาณ 17 cm

รองรับ M/B แบบ MicroATX ทั่วไป

ขนาด Power Supply ขนาดมาตรฐาน 14cm x 15cm

รองรับการเชื่อมต่อแบบ DVI

อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ มี usb 2.0 มา 2 port

ปุ่มควบคุม 4 ปุ่ม   Menu / +up / -down / Power

ข้อสังเกตุ : ไม่มี webcam / ไม่มีที่แขวนหูฟัง / มีรุ่นความละเอียด 2K ให้เลือก

มี 3 ขนาดให้เลือก 24 นิ้ว 27 นิ้ว และ 32 นิ้ว





- รุ่น N27

ขนาดของตัวจอ ไม่รวมฐาน  สูง 42 cm  ยาว 65 cm  

ความหนาวัดจากหน้าจอไปยังส่วนที่หน้าที่สุด ประมาณ 17 cm

รองรับ M/B แบบ MicroATX ทั่วไป

ขนาด Power Supply ขนาดมาตรฐาน 18cm x 15cm

รองรับการเชื่อมต่อแบบ DVI

อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ มี usb 3.0 1 port / usb 2.0 1 Port / Speaker / Mic   และมีที่แขวนหูฟัง

ปุ่มควบคุม 3 ปุ่ม   Menu / +up / -down  มีปุ่ม Power แยกต่างหากแสดงไฟสว่างขณะใช้งาน

ข้อสังเกตุ : ไม่มี webcam  ขาจอสามารถยึดติดกับพื้นโต๊ะได้

มี 2 ขนาด คือ 27 นิ้ว และ 32 นิ้ว

15
สินค้าและบริการ / Network Server PRO
« เมื่อ: 11 มีนาคม 2016, 00:02:26 »
Network Server ขนาด 6 Gigabit LAN แบบ Rack 1U
























หน้า: [1] 2 3 ... 24